วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระปิต

                                              พระปิตา

พระปิดตาอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตกพระปิดตาอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
พระปิดตา พุทธคุณ นิยามคำว่าพระปิดตาพระปิดตาความจริงไม่มี แต่นิยมเรียกกันมานานจนชินปาก "พระปิดตา"ลักษณะขององค์พระท่านเป็นการยกพระหัตถ์ ปิดพระพักตร์ มิใช่ยกพระหัตถ์ปิดพระเนตร(ตา) แต่ปิดรวม ตา หู จมูก ปาก และดวงหน้าซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของกาย ส่วนใจเป็นนามก็ปิดโดยสมมุติ นับเป็นอาการสำรวมอายตนะ ๖  ประการ
ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด
     
๑. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งยองความหมายเดิมคือพระโพธิสัตว์เจ้าในพระครรภ์ เรียกว่าพระมหาอุด หรือเป็นพระปิดทวารทั้งเก้าเต็มภาค ไม่มีคำเรียกอย่างอื่น
     ๒. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม”ไม่มีคำว่าพระนำหน้าและไม่มีคำบดีหรือปติตามหลัง จะเรียกภควันต์ก็ไม่ได้ เพราะคำศัพท์หมายถึงพระอิศวรหรือนามแห่งพระพุทธเจ้า ภควัม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานหมายความถึงพระปิดทวารทั้งเก้าปิดตาคว่ำพระพักตร์ จนมีคำพังเพยว่า”หน้าคว่ำเป็นภควัมเจียวนะ”หมายถึงสาวแสนงอน มองไปหลายตลบ ก็ไม่พบพระปิดตาหน้าคว่ำคำราชบัณฑิตหมายถึง ผู้แปลบาลีท่านจะเป็นนักพระเครื่องด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
     ๓. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”พระปิดตาทั้ง๓ชนิดมีทั้งฝ่ายบู้ ฝ่ายบุ๋น ความหมายมิได้คล้ายคลึงกันเลย ยังมีบุคลบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประเภทเดียวกัน จำต้องสังคายนาให้เห็นชัดสักครั้ง เพราะมิผู้นิยม"พระปิดตา"กันมาก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
     ๑. ๑ พระปิดตามหาอุดโดยสมบูรณ์นั่งยอง หรือพระเจ้าในครรภ์ สร้างโดยรูปแบบบุคคลาธิษฐานของการปิดทวารทั้งเก้า โดยจินตนาการรูปลักษณะของทารกในครรภ์ ซึ่งมีการปิดทวารโดยอัตโนมัติดังนี้
๑ ๑ ๑ ดวงตาทั้งสองต้องไม่มองสรรพสิ่งใดๆ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๒ หูทั้งสองไม่รับฟังสรรพสำเนียงใดๆ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๓ รูจมูกทั้งสองไม่ทำการหายใจ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๔ ไม่เอ่ยปากเจรจากับผู้ใด(ปิด ๑ ทวาร)
๑.๑.๕ ทวารหนักเบาไม่ทำการถ่าย(ปิด ๒ ทวาร)
ประวัติพระปิดตารวมทั้งสิ้นเป็นการปิดทวารทั้งเก้าทวารด้วยกัน ไม่เกี่ยวกับการอายตมะเท่าที่ค้นพบนิยมสร้างด้วยเนื้อตะกั่วเถื่อน เช่นพระของหลวงพ่อดำ วัดกุฎิ ปราจีนบุรี สร้างเป็นลักษณะก้อนกลม มีเท้าทังสองข้างโผล่ให้เห็นเพียงเล็กน้อย ดูคล้ายมิใช่องค์พระ นั่นแหละพระเจ้าในครรภ์ อายุยังน้อยประมาน ๓ เดือนเท่านั้น"พระปิดตา ปักเป้า" แสดงให้เห็นว่าสถิตอยู่ในครรภ์ พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ๊ก พระปิดตาหลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ อาจารย์หลวงพ่อเชย พระปิดตาคุมโปง วัดท่าพระ เนื้อชินปรอท เนื้อผงคลุกรักพบบนเพดานพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหลวง สร้างขึ้นที่วัดพระแก้ววังหน้า เนื้อดินผสมผงพบในกรุวัดราชนัดดา และอาจมีที่อื่นอีกพระเครื่องปิดตาในรูปแบบนี้ จะเรียกว่า  ภควัม พระควัมปติ  ไม่เป็นการถูกต้อง เรียกได้เพียงพระมหาอุดหรือพระปิดทวารทั้งเก้าเท่านั้น จึงจะตรงกับความหมาย"พระปิดตา"
พระปิดตากุมารในครรภ์
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
การสร้างพระปิดตากุมารในครรภ์ของพระอาจารย์เจ็ก ฐิตธมฺโม มีส่วนประกอบขององค์พระ ดังนี้ 
๑. รกหนา หมายถึง ส่วนที่เป็นฐานพระ นิยมขมวดเป็นรูปวงกลม หรือ แผ่นกลม วางไว้ใต้ก้น หรือ ใต้พระบาททั้งสองขององค์พระ
๒. รกบาง ไม่ปรากฏสัญลักษณ์ในรูปองค์พระ เนื่องจากเป็นส่วนที่บางใสอย่างอากาศธาตุที่ห่อหุ้มอยู่รอบองค์พระ จึงไม่จำเป็นต้องใช้สัญลักษณ์
๓. น้ำทัง หมายถึง ส่วนที่เป็นขมวดมวยอยู่บนพระเศียรขององค์พระ
๔. ลำไส้ หรือ สายสะดือ หมายถึง ส่วนที่เป็นเส้นที่ลากผ่านกลางหลังขององค์พระ จากด้านซ้ายไปด้านขวา หรือ จากด้านขวาไปด้านซ้าย หรือ เส้นที่ลากต่อจากขมวดมวยบนพระเศียรลงไปทางด้านหน้าจดกับสะดือ เพราะฉะนั้นสายสะดือกับขมวดมวยน้ำทังจึงเป็นส่วนที่ต่อเนื่องกัน
พระคาถาประจำองค์พระ" คาถาพระปิดตา "
อุมังคะลามหาสัมพุทธานัง ชะละมาลาติมาระภะเว
 พระคาถานี้ใช้บูชาพระเจ้าในครรภ์แล
......................................................
พระปิดตา หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
พระปิดตา หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
     ๒.๑ พระปิดตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ ผิดลักษณะจากทารกในครรภ์ ตามเหตุผลแล้วการเข้านิโรธ ไม่เป็นการปิดทวารอะไร อย่างน้อยยังมีอัสสาสะปัสสาสะ คือลมหายใจเข้า-ออก ยกเว้นเพียงไม่กล่าวคำพูดและไม่ฉันอาหารเท่านั้น อาจดื่มน้ำ เพราะความต้องการของร่างกาย มิเท่านั้น ยังมีการถ่ายหนักถ่ายเบาจากสิ่งที่ตกค้างหลง เหลือภายในร่างกายตามระบบการขับถ่ายและก็มิใช่นั่งเป็นตัวตอ ทั้ง ๗ วัน ๗คืน ก็ แปลรูปเป็นเนสัชชิกังไปในอิริยาบถสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน ล้วนเป็นการปฏิบัติสมาธิทั้งสิ้น การทำสมาธิแบบวิปัสสนาญาณ(มิใช่ฌาน)ล้วนตื่นเบิกบาน รู้ตัวทั่วพร้อม ประกอบด้วยสัมมาสมาธิ คือสมาธิลืมตาหรือสมาธิพุทธ ตามองเห็นเป็นรูป ตัวเป็นนาม ไปหลับตาแล้วจะรู้อะไร

     ส่วนสมาธิหลับตานั้นมิใช่สมาธิพุทธ เป็นมิฉาสมาธิ หรือสมาธิสากล ไม่เลือกลัทธิเป็นพวกไสยศาสตร์ ไสยะแปลว่านอนหรือหลับพุทธะแปลว่าตื่น การที่ พระพุทธโฆษาจารย์แห่งลังกาทรงนิพันธ์คัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่าด้วยการปฏิบัติพระกรรมฐาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง ๔๐ แบบ ล้วนนอกลัทธิพุทธทั้งสิ้น เพราะอะไรก็เพราะว่ากรรมวิธีนี้เกิดมาก่อนพุทธ และพระพุทธองค์ได้ทรงศึกษากรรมวิธีนี้จากพระอาจารย์สองท่านคืออุทกดาบถ รามบุตร อาฬารดาบส รามโคตร์ ซึ่งทั้งสองท่านมิใช่พุทธแต่เป็นโยคีศึกษาแบบนั่งหลับไปจนถึงอรูปฌานก็ไม่เห็นทางหลุดพ้น จัดเป็นเพียงสมถะมีสมาธิแต่ไม่ถึงขั้นปัญญา มีฤทธิ์สามารถแสดงออกได้ เพ่งกสิณก็ได้ เหาะเหินเดินฟ้ายังได้ เช่น คันธารีฤๅษีและพระเทวทัตซึ่งสำเร็จสมาบัติ ๘ คือรูปฌาม ๔ อรูปฌาม ๔ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเลื่อมใสของพระเจ้าอชาติศัตรูพระเทวทัตเหาะได้และแปลงกายเป็น พญานคาราชก็ได้ แต่ขั้นโสดาบันยังไม่ได้คือไปสร้างตัวยืด ไม่ทำตัวหลุด แต่ก็เป็น อุปการะในการทำเสโตสมาธิหรือกระทำวิปัสสนาไม่ต่ำช้าอะไร
พระปิดตาไม้แกะ
พระปิดตาไม้แกะ
     เมืองไทยเราพอเห็น ใครนั่งหลับตาหรือแสดงฤทธิ์ได้เล็กน้อย ก็ยกย่องเป็นพระอรหันต์เมื่อพระพุทธองค์ ปลีกตัวออกจากอาจารย์ทั้งสองท่านแล้ว ก็ทรงค้นหาทางดับทุกข์จนบรรลุพระอนุตร สัมมาสัมโพธิญาณจากนั้นพระองค์ท่านก็เสด็จออกไปยืนทอดพระเนตรสู่เบื้องบรูพาทิศ หรือทิศตะวันออก ลืมพระเนตรทั้งสองไม่กระพริบตลอด ๗ ทิวาราตี ไม่กลัวแดดเกรงตะวัน ปางนี้เรียกว่าปางถวายพระเนตร ท่านได้สอนไว้แล้วทำตัวอย่างให้ดูท่านผู้ใดยังสงสัยเรื่องสมาธิพุทธลืมตา ว่างๆย่องไปดูพระท่านเดินหลับตาหรือลืมตา เมื่อเดินลืมตานั่งก็ลืมตายืนก็ลืมตา นอนก็ลืมตาได้ เพราะอยู่ในอิริยาบถสี่หลับตานั้นเป็นวิธีของฤๅษี  บรรลุฌาน ๘ ลืมตาเป็นวิธีของพุทธบรรลุญาณ ๑๖ แยกญาณกับฌามให้ออก พระเจ้าเข้านิโรธสมบัติส่วนใหญ่เป็นพระอรหันตาเจ้าเรียนรู้สมาธิพุทธตามคำสอนของพระบรมครู ท่านถือสายกลางอย่าไปคิดว่าเคร่งครัดแบบอัตกิลมถานุโยคะ ซึ่งเป็นการเบียดเบียนตนเอง นั่งนานเมื่อยท่านก็ลุกยืนนานท่านเมื่อยท่านก็ออกเดินจงกลม เดินเมื่อยนักท่านก็นอนตะแคงแบบสีหไสยาสน์ตะแคงขวา เป็นการนอนแบบมีสติในการพิจารณาธรรม
     ถ้านอนตะแคงซ้ายเรียกว่ากามโภคี ใช้ไม่ได้การเข้านิโรธสมาบัติเป็นเพียงการเพิ่มตบะธรรม สำคัญที่สติ ตาก็ดูหูก็ฟัง ไม่ลืมตาแล้วจะไปพิจารณามหาภูตรูป คือธาตุทั้งสี่วัตถุแท่งทึบ โปร่งใสได้อย่างไรเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณรวมเป็นจิตตัวรู้และเป็นนาม จะรู้ตัวทั่วพร้อมได้อย่างไร เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผ่านมากระทบอารมณ์จะพิจารณาในธรรมหมวดใด จะเป็นพระไตรลักษณ์ ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา หรือพิจารณาในมหาสติปัถฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม เช่นกายก็สักแต่ว่าเป็นกายไม่ใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขา ท่านจะใช้ธรรมสองหมวดยกขึ้นพิจารณา ที่กล่าวว่าวิญญาณ คือธาตุรู้เช่น
     จักขุวิญญาณ (ตา), โสตะวิญญาณ (หู), ฆานะวิญญาณ (จมูก), ชิวหาวิญญาณ (ลิ้น), มันจะไปรู้อะไรมันเป็นเพียงเจตะสิกจิต (จิตตังเจตะสิกกัง) ตาทำหน้าที่เพียงจับภาพแล้วส่งผ่านไปยังสัญญาจะบอกได้ว่ารูปอะไรภาพอะไร จะกล่าวเพียงว่าเห็นเป็นรูปตัว รู้เป็นนาม ได้ยินเสียงเป็นรูปรู้เป็นนามมันออกจะยากอยู่สักหน่อย
     เช่นนี้การเข้านิโรธสมาบัติก็ไม่ใช่การปิดทวารแน่(พระปิดตา) ในเมื่อพระคณาจารย์มีความประสงค์จะสร้างพระมหาอุด บางท่านก็แนะแนวกับช่าง บางท่านก็มิได้สนใจสุดแต่ช่างจะจัดการให้ จึงออกมาหลายรูปแบบตามความรู้ของช่าง จึงอย่าไปยึดติดในรูปเพราะพระมหาอุดหลายชนิดไม่มีการปิดตาเช่น  พระพิจิตรหัวดง พระท่ากระดาน พระร่วงสนิมแดง พระหูยานลพบุรี พระท่ามะปราง ฯลฯ เป็นต้น
     ยังมีความเชื่อกันผิดๆว่าใครมีพระปิดตาแล้วจะขัดลาภขัดผล เช่นนี้ลองดูได้ ใครมีพระปิดตาวัดทองสุวรรณารามของหลวงพ่อทัพ และพระปิดตาวัดหนังของหลวงปู่เอี่ยม ไม่ต้องมีมากแค่อย่างละ 20องค์พอขอให้เป็นของแท้ ลาภผลจะไหลมาเทมาเรียกว่ารับเละแน่นอน ประเภทมีกูไว้ไม่จนเช่นกัน
พระปิดตาหลวงปู่นาค
พระปิดตาหลวงปู่นาค
     พระปิดตาแบบพระเจ้าเข้านิโรธปรมาจารย์ผู้ปลุกเสกมีเจตนาให้เป็นพระมหาอุด จะไปเรียกพระควัมปติไม่ได้ เรียก ภควัม พออนุโลม เรียกพระปิดตาก็ได้ เพียงระบุวัดด้วยรูปแบบแห่งบุคคลาธิษฐานอธิบายแล้ว มิใช่ปิดทวารทั้งเก้าส่วนมากค้นพบสร้างด้วยเนื้อเมฆสิทธิ์ เช่น พระปิดตาวัดอนงคาราม ของหลวงพ่อทับ เนื้อเมฆพัด ปิดตาวัดห้วยจระเข้ ของหลวงพ่อนาค พระปิดตาวัดพะเนียงแตก ของหลวงพ่อทา พระปิดตาหลุมดิน ของหลวงพ่อปล้อง มากมายจำไม่หวาดไม่ไหว พระปิดตาที่สร้างมีทั้งเนื้อสัมฤทธิ์เงิน สัมฤทธิ์ทอง
พระคาถาประจำองค์พระ "พระปิดตา"
อุดทัง อัดโท นะโมพุทธายะ
.............................................
พระปิดตา รุ่นปลดหนี้ หลวงปู่โต๊ะพระปิดตา รุ่นปลดหนี้ หลวงปู่โต๊ะ
     ๓.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่นเป็นองค์สมมุติ ของพระอรหันตาเจ้า แต่จะเป็นองค์ใดคงต้องพิจารณากันต่อไป มีความผิดแผกแตกต่างกับ พระปิดตาชนิดที่1 และพระปิดตาชนิดที่2 ทั้งรูปและนาม พระปิดตาสองแบบแรกรูปลักษณ์ไปคนละอย่าง อิทธิคุณออกไปด้านป้องกันคุ้มครอง ทั้งมิได้เป็นองค์แทนของผู้ใด ส่วนแบบที่3 ที่จะกล่าวถึงนี้ อิทธิคุณเน้นหนักไปในทางนิ่มนวล เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาด การจัดสร้างเนื้อหาก็แตกต่างกัน ไม่นิยมใช้สัมฤทธิ์เงิน สัมฤทธิ์ทอง เมฆพัด เมฆสิทธิ์ ที่สร้างขึ้นส่วนมากประกอบด้วย เนื้อผงตัวยาคลุกรัก คือผงมหาราชหรือผงอิทธิเจ อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผงวิเศษ ประเภทเมตตามหานิยมที่แกะด้วยไม้โพธิ์ กาฝากรักซ้อน บรรจุด้วยพระธาตุสิวลีห่อด้วยกระดาษสาลงพระยันต์ อุดด้วยขี้สูดดินราบ(ชันโรงใต้ดิน) ถ้าแกะด้วยรากชิงหายผี นำไปแช่น้ำมันจันทน์ เสกจนพระลุกขึ้นนั่ง พุทธคุณพระปิดตา เอาน้ำมันทาตัวล่องหนแล ที่แกะด้วยงาช้างและกระดูกสัตว์ก็พอมีอยู่ แต่ไม่เป็นการถูกต้องเทพสิงจะไม่สถิตในกระดูกสัตว์เดรัจฉานได้เพียงพลังจิตของผู้ปลุกเสกเท่านั้น ที่สร้างด้วยเนื้อโลหะส่วนมากเป็นพวกชินตะกั่ว ความมุ่งหมายของการสร้าง เป็นไปได้ทั้ง บุคคลาธิษฐาน และธรรมาธิษฐาน นิยมเรียกกันว่า “พระควัมปติ”
ปฏิทินชุดพระปิดตา ของ ท่านไชยทัศน์
พระปิดตา ปฏิทินชุดของท่านไชยทัศน์
     พระควัมปติ หมายถึงพระอรหันต์รูปใดในตำนานพุทธสาวกกล่าวว่า ท่านคือพระควัมปติเป็นพระสาวกรุ่นแรกๆ ของพระพุทธองค์ ก่อนอุปสมบทดำรงฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีมีทรัพย์ ระดับเดียวกันกับ ยสมานพ(อ่านยะสะ) เป็นเพื่อนเกลอรักใคร่ชอบพอกันมาก ครั้งเกิดธรรมาพิสมัย จึงพร้อมใจกันอุปสมบทในสำนักของพระบรมศาสดา ภายหลังต่อมาได้บรรลุอรหันต์ทั้งสองรูปท่านพระควัมปติทรงเป็นเอตะทัคคะ 1 ในพระอรหันต์ผู้ทรงเอตะทัคคะ 80รูปในด้านอินทรีย์สังวร ท่านบรรลุซึ่งเตวิชโชหรือวิชชาสาม เชี่ยวชาญในอิทธิวิธี เชียวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน เคยใช้ฤทธิ์ห้ามกระแสน้ำในลำน้ำสรภู ซึ่งไหลเชี่ยวให้หยุดไหลได้ อาการที่สำรวมทั้งภายนอกภายในโดยเคร่งครัดสม่ำเสมอนี้ ทำให้เทพยดาแลมนุษย์พากันเคารพสรรเสริญ ต่อมาได้พากันสร้างรูปของท่านเพื่อสักการบูชาลักษณะการยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์จัดเป็นธรรมาธิษฐาน มิใช่บุคคลธิษฐาน เพราะการสำรวมอายะตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่จำเป็นต้องปิดหน้า"พระปิดตา" แต่เป็นการแสดงความหมายให้ทราบเท่านั้น
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    ตำนานพระปิดตา อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า "พระปิดตา"ชนิดนี้คือพระมหากัจจายน์เถระเจ้า ปางอธิษฐานเนรมิตกาย ความเดิมมีว่าท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าท่านนี้ เป็นเอตะทัคคะในการขยายความย่อให้พิสดาร และเป็นผู้วางหลักสูตรพระบาลีมูลกัจจายน์ คือการสอนพระบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อน เกิดในวรรณะพราหม์ในสกุลกาญจนโคตร ประกอบผิวพรรณวรรณะ อาการแห่งลีลารวมทั้งวรกายละม้ายคล้ายองค์พระบรมศาสดาเจ้า หากดำเนินมาแต่ไกล ผู้คนมักจะจำผิดพากันคิดว่าพระพุทธองค์เสด็จและแม้แต่เทพยดาก็พากันหลงผิด ลีลาสง่างามยิ่งนัก เป็นที่เสน่หานิยมชมชอบของเทพยดาแลมนุษย์ชายหญิงทั้งหลาย และพากันถวายฉายาว่า ควัมปติ” แปลว่าผู้มีวรกายแลละม้ายคล้ายพระศาสดา (ได้ค้นศัพท์ในพจนานุกรมแล้วไม่มีปรากฏ)

     ในกาลครั้งหนึ่งโสไรยเศรษฐีบุตร พ่อค้าวานิช ได้คุมกองคาราวานไปค้ายังเมืองไกล บังเอิญประจวบเหมาะได้พบเจอกับท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าก็คิดรำพึงอยู่ภายในไจว่า ภรรยาเรานะนับว่ามีความงามเป็นเลิศ ยังมิอาจเทียบเท่ากับสมณะท่านนี้ หากเราได้ภรรยาเช่นนี้จะปลื้มใจสักเพียงใด พอความนึกคิด สะดุดหยุดลง โสไรยเศรษฐีบุตรพลันกลับกายร่างเป็นเพศหญิงในทันทีทันใด บังเกิดความละอายยิ่งนัก หลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบประผู้คน ทั้งไม่ยอมหลับไปยังสถานที่อยู่เดิม ทอดทิ้งบุตรภรรยาและบิดามารดาให้รอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ  สุดท้ายหมดเนื้อหมดตัว ไปได้สามีแลได้บุตร๒ คน รวมกับบุตรที่มีอยู่เดิม ๒ คน เป็น ๔ คน ยิ่งฟุ้งซ่านใหญ่กาลเวลาผ่านมาหลายปี จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่งนางก็ได้เห็นท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้า ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ นางจรึงจัดภัตตาหารพร้อมด้วยขันใส่ข้าวสุก ไปคอยดักใส่บาตร และกราบทูลความเป็นไปให้ทราบ อ้อนวอนให้ท่านพระมหากัจจายนะเจ้าจงโปรดช่วยเหลือ ท่านมหากัจจายนะเถระเจ้าจรึงนัดพบหลังจากเสร็จจากการบิณฑบาตและกระทำภัตตกิจเรียบร้อยแล้ว ท่านกล่าวว่านึกไม่ถึงและไม่มีเจตนาแต่ประการใดเพียงแต่มีข้อแม้ว่าหากท่านช่วยอธิษฐานกลับเพศให้ได้ดังเดิมแล้ว โสไรยเศรษฐีบุตร ต้องอุปสมบทเป้นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนาโสไรยเศรษฐีบุตรจึงตกลงรับคำ และกลับเพศให้สมปรารถนาท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าทรงเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทให้โดยเรียบร้อย ภายหลังต่อมาพระโสไรย ได้บรรลุอรหัตตผล
 
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ(หลัง)
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ(หลัง)
     ท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าจึงทรงรำพึงว่า อันความสวยความจนทำให้เทพยดาแลผู้คนพากันใหลหลงเป็นของมีโทษ เรียกว่ากามวิตก เป็นหนทางแห่งการมัวหมองเราควรจะแปรเปลี่ยนสรีระเสียใหม่ให้สิ้นซึ่งความสง่างาม รำพรึงดังนั้นแล้วท่านก็ทรุดองค์ลงนั่งคู่บรรลังก์ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ อธิษฐานเนรมิตวรกาย ให้มีรูปร่างอ้วนเตี้ยม้อต้อมีอุทรอันพลุ้ยสิ้นซึ่งความสง่างามลักษณะเช่นนี้เรียกว่า บุคคลาอธิษฐาน มิใช่ธรรมาอธิฐาน ท่านผู้อ่านจะยึดในธรรมาธิษฐานหรือบุคคลธิษฐาน หรือจะเชื่อเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งก็สุดแต่ใจเถิด ล้วนเป็นของประเสริฐทั้งสิ้น ปรัศนีนี้มักนำปัญหาค้านแย้งมาให้ขบคิด ปัญญาจะได้แตกฉานพระอรหันต์ตามที่กล่าว นี้เป็นคนละองค์ ปรากฏในตำนานพุทธสาวก แลทรงเอตะทัคคะไปคนละแนว ถ้าหากเป็นองค์เดียวกันปัญหาจะไม่ยุ่งยาก แต่อย่างไรก็ตาม ท่านพระควัมปติ เป็นพระนามตรงและเรียกกันมาแต่โบราณกาลแล้ง สำหรับการแนะแนวถ้าเรานึกบุคคลาธิษฐาน ท่านก็คือ พระมหากัจจายนะเถระเจ้าถ้าเราคิดไปในแง่ธรรมาธิฐาน ท่านก็คือ พระควัมปติคิดไปได้สองแง่สองมุม หรือสองนัยะอย่าไปคิดฟุ้งสร้านติดยึดในรูปนาม นามะ รูปังทุกข์นามารูป์อนิจจ์ นามารูปังอนัตตา
พระปิดตา พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทองพระปิดตา พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
สรุปคำว่าพระปิดตา ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น 3ลักษณะ
1.พระปิดตามหาอุด โดยสมบูรณ์เรียกว่าพระปิดทวารทั้งเก้า นั่งยองหรือพระเจ้าในครรภ์ พระปิดตากุมารในครรภ์
2.พระปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม” ปิดตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ ผิดลักษณะจากทารกในครรภ์ ตามเหตุผลแล้วการเข้านิโรธ ไม่เป็นการปิดทวารอะไร
3.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”
พระปิดตา ถึงจะแบ่งตามลักษณะที่กล่าวมาแต่ พุทธคุณในองค์พระ(พระปิดตา)อาจจะไม่เป็นแบบที่กล่าวมาเสมอไปอยู่ที่พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างจะบรรจุพุทธคุณอธิษฐานจิตให้พระปิดตามีพุทธคุณตามที่ท่านต้องการ 
********************************************************
พระปิดตาอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตกพระปิดตาอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
พระปิดตา พุทธคุณ นิยามคำว่าพระปิดตาพระปิดตาความจริงไม่มี แต่นิยมเรียกกันมานานจนชินปาก "พระปิดตา"ลักษณะขององค์พระท่านเป็นการยกพระหัตถ์ ปิดพระพักตร์ มิใช่ยกพระหัตถ์ปิดพระเนตร(ตา) แต่ปิดรวม ตา หู จมูก ปาก และดวงหน้าซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของกาย ส่วนใจเป็นนามก็ปิดโดยสมมุติ นับเป็นอาการสำรวมอายตนะ ๖  ประการ
ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด
     
๑. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งยองความหมายเดิมคือพระโพธิสัตว์เจ้าในพระครรภ์ เรียกว่าพระมหาอุด หรือเป็นพระปิดทวารทั้งเก้าเต็มภาค ไม่มีคำเรียกอย่างอื่น
     ๒. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม”ไม่มีคำว่าพระนำหน้าและไม่มีคำบดีหรือปติตามหลัง จะเรียกภควันต์ก็ไม่ได้ เพราะคำศัพท์หมายถึงพระอิศวรหรือนามแห่งพระพุทธเจ้า ภควัม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานหมายความถึงพระปิดทวารทั้งเก้าปิดตาคว่ำพระพักตร์ จนมีคำพังเพยว่า”หน้าคว่ำเป็นภควัมเจียวนะ”หมายถึงสาวแสนงอน มองไปหลายตลบ ก็ไม่พบพระปิดตาหน้าคว่ำคำราชบัณฑิตหมายถึง ผู้แปลบาลีท่านจะเป็นนักพระเครื่องด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
     ๓. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”พระปิดตาทั้ง๓ชนิดมีทั้งฝ่ายบู้ ฝ่ายบุ๋น ความหมายมิได้คล้ายคลึงกันเลย ยังมีบุคลบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประเภทเดียวกัน จำต้องสังคายนาให้เห็นชัดสักครั้ง เพราะมิผู้นิยม"พระปิดตา"กันมาก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
     ๑. ๑ พระปิดตามหาอุดโดยสมบูรณ์นั่งยอง หรือพระเจ้าในครรภ์ สร้างโดยรูปแบบบุคคลาธิษฐานของการปิดทวารทั้งเก้า โดยจินตนาการรูปลักษณะของทารกในครรภ์ ซึ่งมีการปิดทวารโดยอัตโนมัติดังนี้
๑ ๑ ๑ ดวงตาทั้งสองต้องไม่มองสรรพสิ่งใดๆ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๒ หูทั้งสองไม่รับฟังสรรพสำเนียงใดๆ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๓ รูจมูกทั้งสองไม่ทำการหายใจ(ปิด ๒ ทวาร)
๑.๑.๔ ไม่เอ่ยปากเจรจากับผู้ใด(ปิด ๑ ทวาร)
๑.๑.๕ ทวารหนักเบาไม่ทำการถ่าย(ปิด ๒ ทวาร)
ประวัติพระปิดตารวมทั้งสิ้นเป็นการปิดทวารทั้งเก้าทวารด้วยกัน ไม่เกี่ยวกับการอายตมะเท่าที่ค้นพบนิยมสร้างด้วยเนื้อตะกั่วเถื่อน เช่นพระของหลวงพ่อดำ วัดกุฎิ ปราจีนบุรี สร้างเป็นลักษณะก้อนกลม มีเท้าทังสองข้างโผล่ให้เห็นเพียงเล็กน้อย ดูคล้ายมิใช่องค์พระ นั่นแหละพระเจ้าในครรภ์ อายุยังน้อยประมาน ๓ เดือนเท่านั้น"พระปิดตา ปักเป้า" แสดงให้เห็นว่าสถิตอยู่ในครรภ์ พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ๊ก พระปิดตาหลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ อาจารย์หลวงพ่อเชย พระปิดตาคุมโปง วัดท่าพระ เนื้อชินปรอท เนื้อผงคลุกรักพบบนเพดานพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหลวง สร้างขึ้นที่วัดพระแก้ววังหน้า เนื้อดินผสมผงพบในกรุวัดราชนัดดา และอาจมีที่อื่นอีกพระเครื่องปิดตาในรูปแบบนี้ จะเรียกว่า  ภควัม พระควัมปติ  ไม่เป็นการถูกต้อง เรียกได้เพียงพระมหาอุดหรือพระปิดทวารทั้งเก้าเท่านั้น จึงจะตรงกับความหมาย"พระปิดตา"
พระปิดตากุมารในครรภ์
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก
พระปิดตากุมารในครรภ์ อาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก(รูปจากคุณก้อง หาดใหญ่)
การสร้างพระปิดตากุมารในครรภ์ของพระอาจารย์เจ็ก ฐิตธมฺโม มีส่วนประกอบขององค์พระ ดังนี้ 
๑. รกหนา หมายถึง ส่วนที่เป็นฐานพระ นิยมขมวดเป็นรูปวงกลม หรือ แผ่นกลม วางไว้ใต้ก้น หรือ ใต้พระบาททั้งสองขององค์พระ
๒. รกบาง ไม่ปรากฏสัญลักษณ์ในรูปองค์พระ เนื่องจากเป็นส่วนที่บางใสอย่างอากาศธาตุที่ห่อหุ้มอยู่รอบองค์พระ จึงไม่จำเป็นต้องใช้สัญลักษณ์
๓. น้ำทัง หมายถึง ส่วนที่เป็นขมวดมวยอยู่บนพระเศียรขององค์พระ
๔. ลำไส้ หรือ สายสะดือ หมายถึง ส่วนที่เป็นเส้นที่ลากผ่านกลางหลังขององค์พระ จากด้านซ้ายไปด้านขวา หรือ จากด้านขวาไปด้านซ้าย หรือ เส้นที่ลากต่อจากขมวดมวยบนพระเศียรลงไปทางด้านหน้าจดกับสะดือ เพราะฉะนั้นสายสะดือกับขมวดมวยน้ำทังจึงเป็นส่วนที่ต่อเนื่องกัน
พระคาถาประจำองค์พระ" คาถาพระปิดตา "
อุมังคะลามหาสัมพุทธานัง ชะละมาลาติมาระภะเว
 พระคาถานี้ใช้บูชาพระเจ้าในครรภ์แล
......................................................
พระปิดตา หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
พระปิดตา หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
     ๒.๑ พระปิดตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ ผิดลักษณะจากทารกในครรภ์ ตามเหตุผลแล้วการเข้านิโรธ ไม่เป็นการปิดทวารอะไร อย่างน้อยยังมีอัสสาสะปัสสาสะ คือลมหายใจเข้า-ออก ยกเว้นเพียงไม่กล่าวคำพูดและไม่ฉันอาหารเท่านั้น อาจดื่มน้ำ เพราะความต้องการของร่างกาย มิเท่านั้น ยังมีการถ่ายหนักถ่ายเบาจากสิ่งที่ตกค้างหลง เหลือภายในร่างกายตามระบบการขับถ่ายและก็มิใช่นั่งเป็นตัวตอ ทั้ง ๗ วัน ๗คืน ก็ แปลรูปเป็นเนสัชชิกังไปในอิริยาบถสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน ล้วนเป็นการปฏิบัติสมาธิทั้งสิ้น การทำสมาธิแบบวิปัสสนาญาณ(มิใช่ฌาน)ล้วนตื่นเบิกบาน รู้ตัวทั่วพร้อม ประกอบด้วยสัมมาสมาธิ คือสมาธิลืมตาหรือสมาธิพุทธ ตามองเห็นเป็นรูป ตัวเป็นนาม ไปหลับตาแล้วจะรู้อะไร

     ส่วนสมาธิหลับตานั้นมิใช่สมาธิพุทธ เป็นมิฉาสมาธิ หรือสมาธิสากล ไม่เลือกลัทธิเป็นพวกไสยศาสตร์ ไสยะแปลว่านอนหรือหลับพุทธะแปลว่าตื่น การที่ พระพุทธโฆษาจารย์แห่งลังกาทรงนิพันธ์คัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่าด้วยการปฏิบัติพระกรรมฐาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง ๔๐ แบบ ล้วนนอกลัทธิพุทธทั้งสิ้น เพราะอะไรก็เพราะว่ากรรมวิธีนี้เกิดมาก่อนพุทธ และพระพุทธองค์ได้ทรงศึกษากรรมวิธีนี้จากพระอาจารย์สองท่านคืออุทกดาบถ รามบุตร อาฬารดาบส รามโคตร์ ซึ่งทั้งสองท่านมิใช่พุทธแต่เป็นโยคีศึกษาแบบนั่งหลับไปจนถึงอรูปฌานก็ไม่เห็นทางหลุดพ้น จัดเป็นเพียงสมถะมีสมาธิแต่ไม่ถึงขั้นปัญญา มีฤทธิ์สามารถแสดงออกได้ เพ่งกสิณก็ได้ เหาะเหินเดินฟ้ายังได้ เช่น คันธารีฤๅษีและพระเทวทัตซึ่งสำเร็จสมาบัติ ๘ คือรูปฌาม ๔ อรูปฌาม ๔ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเลื่อมใสของพระเจ้าอชาติศัตรูพระเทวทัตเหาะได้และแปลงกายเป็น พญานคาราชก็ได้ แต่ขั้นโสดาบันยังไม่ได้คือไปสร้างตัวยืด ไม่ทำตัวหลุด แต่ก็เป็น อุปการะในการทำเสโตสมาธิหรือกระทำวิปัสสนาไม่ต่ำช้าอะไร
พระปิดตาไม้แกะ
พระปิดตาไม้แกะ
     เมืองไทยเราพอเห็น ใครนั่งหลับตาหรือแสดงฤทธิ์ได้เล็กน้อย ก็ยกย่องเป็นพระอรหันต์เมื่อพระพุทธองค์ ปลีกตัวออกจากอาจารย์ทั้งสองท่านแล้ว ก็ทรงค้นหาทางดับทุกข์จนบรรลุพระอนุตร สัมมาสัมโพธิญาณจากนั้นพระองค์ท่านก็เสด็จออกไปยืนทอดพระเนตรสู่เบื้องบรูพาทิศ หรือทิศตะวันออก ลืมพระเนตรทั้งสองไม่กระพริบตลอด ๗ ทิวาราตี ไม่กลัวแดดเกรงตะวัน ปางนี้เรียกว่าปางถวายพระเนตร ท่านได้สอนไว้แล้วทำตัวอย่างให้ดูท่านผู้ใดยังสงสัยเรื่องสมาธิพุทธลืมตา ว่างๆย่องไปดูพระท่านเดินหลับตาหรือลืมตา เมื่อเดินลืมตานั่งก็ลืมตายืนก็ลืมตา นอนก็ลืมตาได้ เพราะอยู่ในอิริยาบถสี่หลับตานั้นเป็นวิธีของฤๅษี  บรรลุฌาน ๘ ลืมตาเป็นวิธีของพุทธบรรลุญาณ ๑๖ แยกญาณกับฌามให้ออก พระเจ้าเข้านิโรธสมบัติส่วนใหญ่เป็นพระอรหันตาเจ้าเรียนรู้สมาธิพุทธตามคำสอนของพระบรมครู ท่านถือสายกลางอย่าไปคิดว่าเคร่งครัดแบบอัตกิลมถานุโยคะ ซึ่งเป็นการเบียดเบียนตนเอง นั่งนานเมื่อยท่านก็ลุกยืนนานท่านเมื่อยท่านก็ออกเดินจงกลม เดินเมื่อยนักท่านก็นอนตะแคงแบบสีหไสยาสน์ตะแคงขวา เป็นการนอนแบบมีสติในการพิจารณาธรรม
     ถ้านอนตะแคงซ้ายเรียกว่ากามโภคี ใช้ไม่ได้การเข้านิโรธสมาบัติเป็นเพียงการเพิ่มตบะธรรม สำคัญที่สติ ตาก็ดูหูก็ฟัง ไม่ลืมตาแล้วจะไปพิจารณามหาภูตรูป คือธาตุทั้งสี่วัตถุแท่งทึบ โปร่งใสได้อย่างไรเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณรวมเป็นจิตตัวรู้และเป็นนาม จะรู้ตัวทั่วพร้อมได้อย่างไร เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผ่านมากระทบอารมณ์จะพิจารณาในธรรมหมวดใด จะเป็นพระไตรลักษณ์ ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา หรือพิจารณาในมหาสติปัถฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม เช่นกายก็สักแต่ว่าเป็นกายไม่ใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขา ท่านจะใช้ธรรมสองหมวดยกขึ้นพิจารณา ที่กล่าวว่าวิญญาณ คือธาตุรู้เช่น
     จักขุวิญญาณ (ตา), โสตะวิญญาณ (หู), ฆานะวิญญาณ (จมูก), ชิวหาวิญญาณ (ลิ้น), มันจะไปรู้อะไรมันเป็นเพียงเจตะสิกจิต (จิตตังเจตะสิกกัง) ตาทำหน้าที่เพียงจับภาพแล้วส่งผ่านไปยังสัญญาจะบอกได้ว่ารูปอะไรภาพอะไร จะกล่าวเพียงว่าเห็นเป็นรูปตัว รู้เป็นนาม ได้ยินเสียงเป็นรูปรู้เป็นนามมันออกจะยากอยู่สักหน่อย
     เช่นนี้การเข้านิโรธสมาบัติก็ไม่ใช่การปิดทวารแน่(พระปิดตา) ในเมื่อพระคณาจารย์มีความประสงค์จะสร้างพระมหาอุด บางท่านก็แนะแนวกับช่าง บางท่านก็มิได้สนใจสุดแต่ช่างจะจัดการให้ จึงออกมาหลายรูปแบบตามความรู้ของช่าง จึงอย่าไปยึดติดในรูปเพราะพระมหาอุดหลายชนิดไม่มีการปิดตาเช่น  พระพิจิตรหัวดง พระท่ากระดาน พระร่วงสนิมแดง พระหูยานลพบุรี พระท่ามะปราง ฯลฯ เป็นต้น
     ยังมีความเชื่อกันผิดๆว่าใครมีพระปิดตาแล้วจะขัดลาภขัดผล เช่นนี้ลองดูได้ ใครมีพระปิดตาวัดทองสุวรรณารามของหลวงพ่อทัพ และพระปิดตาวัดหนังของหลวงปู่เอี่ยม ไม่ต้องมีมากแค่อย่างละ 20องค์พอขอให้เป็นของแท้ ลาภผลจะไหลมาเทมาเรียกว่ารับเละแน่นอน ประเภทมีกูไว้ไม่จนเช่นกัน
พระปิดตาหลวงปู่นาค
พระปิดตาหลวงปู่นาค
     พระปิดตาแบบพระเจ้าเข้านิโรธปรมาจารย์ผู้ปลุกเสกมีเจตนาให้เป็นพระมหาอุด จะไปเรียกพระควัมปติไม่ได้ เรียก ภควัม พออนุโลม เรียกพระปิดตาก็ได้ เพียงระบุวัดด้วยรูปแบบแห่งบุคคลาธิษฐานอธิบายแล้ว มิใช่ปิดทวารทั้งเก้าส่วนมากค้นพบสร้างด้วยเนื้อเมฆสิทธิ์ เช่น พระปิดตาวัดอนงคาราม ของหลวงพ่อทับ เนื้อเมฆพัด ปิดตาวัดห้วยจระเข้ ของหลวงพ่อนาค พระปิดตาวัดพะเนียงแตก ของหลวงพ่อทา พระปิดตาหลุมดิน ของหลวงพ่อปล้อง มากมายจำไม่หวาดไม่ไหว พระปิดตาที่สร้างมีทั้งเนื้อสัมฤทธิ์เงิน สัมฤทธิ์ทอง
พระคาถาประจำองค์พระ "พระปิดตา"
อุดทัง อัดโท นะโมพุทธายะ
.............................................
พระปิดตา รุ่นปลดหนี้ หลวงปู่โต๊ะพระปิดตา รุ่นปลดหนี้ หลวงปู่โต๊ะ
     ๓.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่นเป็นองค์สมมุติ ของพระอรหันตาเจ้า แต่จะเป็นองค์ใดคงต้องพิจารณากันต่อไป มีความผิดแผกแตกต่างกับ พระปิดตาชนิดที่1 และพระปิดตาชนิดที่2 ทั้งรูปและนาม พระปิดตาสองแบบแรกรูปลักษณ์ไปคนละอย่าง อิทธิคุณออกไปด้านป้องกันคุ้มครอง ทั้งมิได้เป็นองค์แทนของผู้ใด ส่วนแบบที่3 ที่จะกล่าวถึงนี้ อิทธิคุณเน้นหนักไปในทางนิ่มนวล เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาด การจัดสร้างเนื้อหาก็แตกต่างกัน ไม่นิยมใช้สัมฤทธิ์เงิน สัมฤทธิ์ทอง เมฆพัด เมฆสิทธิ์ ที่สร้างขึ้นส่วนมากประกอบด้วย เนื้อผงตัวยาคลุกรัก คือผงมหาราชหรือผงอิทธิเจ อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผงวิเศษ ประเภทเมตตามหานิยมที่แกะด้วยไม้โพธิ์ กาฝากรักซ้อน บรรจุด้วยพระธาตุสิวลีห่อด้วยกระดาษสาลงพระยันต์ อุดด้วยขี้สูดดินราบ(ชันโรงใต้ดิน) ถ้าแกะด้วยรากชิงหายผี นำไปแช่น้ำมันจันทน์ เสกจนพระลุกขึ้นนั่ง พุทธคุณพระปิดตา เอาน้ำมันทาตัวล่องหนแล ที่แกะด้วยงาช้างและกระดูกสัตว์ก็พอมีอยู่ แต่ไม่เป็นการถูกต้องเทพสิงจะไม่สถิตในกระดูกสัตว์เดรัจฉานได้เพียงพลังจิตของผู้ปลุกเสกเท่านั้น ที่สร้างด้วยเนื้อโลหะส่วนมากเป็นพวกชินตะกั่ว ความมุ่งหมายของการสร้าง เป็นไปได้ทั้ง บุคคลาธิษฐาน และธรรมาธิษฐาน นิยมเรียกกันว่า “พระควัมปติ”
ปฏิทินชุดพระปิดตา ของ ท่านไชยทัศน์
พระปิดตา ปฏิทินชุดของท่านไชยทัศน์
     พระควัมปติ หมายถึงพระอรหันต์รูปใดในตำนานพุทธสาวกกล่าวว่า ท่านคือพระควัมปติเป็นพระสาวกรุ่นแรกๆ ของพระพุทธองค์ ก่อนอุปสมบทดำรงฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีมีทรัพย์ ระดับเดียวกันกับ ยสมานพ(อ่านยะสะ) เป็นเพื่อนเกลอรักใคร่ชอบพอกันมาก ครั้งเกิดธรรมาพิสมัย จึงพร้อมใจกันอุปสมบทในสำนักของพระบรมศาสดา ภายหลังต่อมาได้บรรลุอรหันต์ทั้งสองรูปท่านพระควัมปติทรงเป็นเอตะทัคคะ 1 ในพระอรหันต์ผู้ทรงเอตะทัคคะ 80รูปในด้านอินทรีย์สังวร ท่านบรรลุซึ่งเตวิชโชหรือวิชชาสาม เชี่ยวชาญในอิทธิวิธี เชียวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน เคยใช้ฤทธิ์ห้ามกระแสน้ำในลำน้ำสรภู ซึ่งไหลเชี่ยวให้หยุดไหลได้ อาการที่สำรวมทั้งภายนอกภายในโดยเคร่งครัดสม่ำเสมอนี้ ทำให้เทพยดาแลมนุษย์พากันเคารพสรรเสริญ ต่อมาได้พากันสร้างรูปของท่านเพื่อสักการบูชาลักษณะการยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์จัดเป็นธรรมาธิษฐาน มิใช่บุคคลธิษฐาน เพราะการสำรวมอายะตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่จำเป็นต้องปิดหน้า"พระปิดตา" แต่เป็นการแสดงความหมายให้ทราบเท่านั้น
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    ตำนานพระปิดตา อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า "พระปิดตา"ชนิดนี้คือพระมหากัจจายน์เถระเจ้า ปางอธิษฐานเนรมิตกาย ความเดิมมีว่าท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าท่านนี้ เป็นเอตะทัคคะในการขยายความย่อให้พิสดาร และเป็นผู้วางหลักสูตรพระบาลีมูลกัจจายน์ คือการสอนพระบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อน เกิดในวรรณะพราหม์ในสกุลกาญจนโคตร ประกอบผิวพรรณวรรณะ อาการแห่งลีลารวมทั้งวรกายละม้ายคล้ายองค์พระบรมศาสดาเจ้า หากดำเนินมาแต่ไกล ผู้คนมักจะจำผิดพากันคิดว่าพระพุทธองค์เสด็จและแม้แต่เทพยดาก็พากันหลงผิด ลีลาสง่างามยิ่งนัก เป็นที่เสน่หานิยมชมชอบของเทพยดาแลมนุษย์ชายหญิงทั้งหลาย และพากันถวายฉายาว่า ควัมปติ” แปลว่าผู้มีวรกายแลละม้ายคล้ายพระศาสดา (ได้ค้นศัพท์ในพจนานุกรมแล้วไม่มีปรากฏ)

     ในกาลครั้งหนึ่งโสไรยเศรษฐีบุตร พ่อค้าวานิช ได้คุมกองคาราวานไปค้ายังเมืองไกล บังเอิญประจวบเหมาะได้พบเจอกับท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าก็คิดรำพึงอยู่ภายในไจว่า ภรรยาเรานะนับว่ามีความงามเป็นเลิศ ยังมิอาจเทียบเท่ากับสมณะท่านนี้ หากเราได้ภรรยาเช่นนี้จะปลื้มใจสักเพียงใด พอความนึกคิด สะดุดหยุดลง โสไรยเศรษฐีบุตรพลันกลับกายร่างเป็นเพศหญิงในทันทีทันใด บังเกิดความละอายยิ่งนัก หลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบประผู้คน ทั้งไม่ยอมหลับไปยังสถานที่อยู่เดิม ทอดทิ้งบุตรภรรยาและบิดามารดาให้รอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ  สุดท้ายหมดเนื้อหมดตัว ไปได้สามีแลได้บุตร๒ คน รวมกับบุตรที่มีอยู่เดิม ๒ คน เป็น ๔ คน ยิ่งฟุ้งซ่านใหญ่กาลเวลาผ่านมาหลายปี จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่งนางก็ได้เห็นท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้า ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ นางจรึงจัดภัตตาหารพร้อมด้วยขันใส่ข้าวสุก ไปคอยดักใส่บาตร และกราบทูลความเป็นไปให้ทราบ อ้อนวอนให้ท่านพระมหากัจจายนะเจ้าจงโปรดช่วยเหลือ ท่านมหากัจจายนะเถระเจ้าจรึงนัดพบหลังจากเสร็จจากการบิณฑบาตและกระทำภัตตกิจเรียบร้อยแล้ว ท่านกล่าวว่านึกไม่ถึงและไม่มีเจตนาแต่ประการใดเพียงแต่มีข้อแม้ว่าหากท่านช่วยอธิษฐานกลับเพศให้ได้ดังเดิมแล้ว โสไรยเศรษฐีบุตร ต้องอุปสมบทเป้นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนาโสไรยเศรษฐีบุตรจึงตกลงรับคำ และกลับเพศให้สมปรารถนาท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าทรงเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทให้โดยเรียบร้อย ภายหลังต่อมาพระโสไรย ได้บรรลุอรหัตตผล
 
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ(หลัง)
พระปิดตา พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ(หลัง)
     ท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าจึงทรงรำพึงว่า อันความสวยความจนทำให้เทพยดาแลผู้คนพากันใหลหลงเป็นของมีโทษ เรียกว่ากามวิตก เป็นหนทางแห่งการมัวหมองเราควรจะแปรเปลี่ยนสรีระเสียใหม่ให้สิ้นซึ่งความสง่างาม รำพรึงดังนั้นแล้วท่านก็ทรุดองค์ลงนั่งคู่บรรลังก์ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ อธิษฐานเนรมิตวรกาย ให้มีรูปร่างอ้วนเตี้ยม้อต้อมีอุทรอันพลุ้ยสิ้นซึ่งความสง่างามลักษณะเช่นนี้เรียกว่า บุคคลาอธิษฐาน มิใช่ธรรมาอธิฐาน ท่านผู้อ่านจะยึดในธรรมาธิษฐานหรือบุคคลธิษฐาน หรือจะเชื่อเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งก็สุดแต่ใจเถิด ล้วนเป็นของประเสริฐทั้งสิ้น ปรัศนีนี้มักนำปัญหาค้านแย้งมาให้ขบคิด ปัญญาจะได้แตกฉานพระอรหันต์ตามที่กล่าว นี้เป็นคนละองค์ ปรากฏในตำนานพุทธสาวก แลทรงเอตะทัคคะไปคนละแนว ถ้าหากเป็นองค์เดียวกันปัญหาจะไม่ยุ่งยาก แต่อย่างไรก็ตาม ท่านพระควัมปติ เป็นพระนามตรงและเรียกกันมาแต่โบราณกาลแล้ง สำหรับการแนะแนวถ้าเรานึกบุคคลาธิษฐาน ท่านก็คือ พระมหากัจจายนะเถระเจ้าถ้าเราคิดไปในแง่ธรรมาธิฐาน ท่านก็คือ พระควัมปติคิดไปได้สองแง่สองมุม หรือสองนัยะอย่าไปคิดฟุ้งสร้านติดยึดในรูปนาม นามะ รูปังทุกข์นามารูป์อนิจจ์ นามารูปังอนัตตา
พระปิดตา พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทองพระปิดตา พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
สรุปคำว่าพระปิดตา ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น 3ลักษณะ
1.พระปิดตามหาอุด โดยสมบูรณ์เรียกว่าพระปิดทวารทั้งเก้า นั่งยองหรือพระเจ้าในครรภ์ พระปิดตากุมารในครรภ์
2.พระปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม” ปิดตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ ผิดลักษณะจากทารกในครรภ์ ตามเหตุผลแล้วการเข้านิโรธ ไม่เป็นการปิดทวารอะไร
3.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”
พระปิดตา ถึงจะแบ่งตามลักษณะที่กล่าวมาแต่ พุทธคุณในองค์พระ(พระปิดตา)อาจจะไม่เป็นแบบที่กล่าวมาเสมอไปอยู่ที่พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างจะบรรจุพุทธคุณอธิษฐานจิตให้พระปิดตามีพุทธคุณตามที่ท่านต้องการ 
********************************************************

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระรอด

                                                  พระรอด




เจาะลึกเรื่องพิมพ์พระรอด
        ได้นำเสนอในเจาะลึกเรื่องพระรอดไปแล้วแต่ เนื้อที่เติมข้อมูลจำกัดและโหลดรูปช้ามากในการเขียนข้อมูล มีความจำเป็นต้องย้าย หัวข้อใหม่ที่นำเสนอข้อมูลพระรอดที่ชุมชนวัดมหาวันขุดได้และกลุ่มช่าง นั้นมีพระรอดมากพิมพ์พระรอดจะได้เสนนอต่อไปให้สาธารณะชนทราบต่อไป หลังจากถูกครอบงำมานาน พระรอดบางพิมพ์ก็ตรงส่วนกลางที่ลงหนังสือ เช่นพิมพ์ใหญ่ช่างหลวงที่มีเครื่องราชฯ และพิมพ์เล็กช่างหลวงพิมพ์หลังค่อม/พิมพ์จ่าโท/พิมพ์ใหญ่ทรงล่ำ/พิมพ์ตื้นนั้มีทุกพิมพ์
ตำหนิในส่วนรวมพระรอดพิมพ์ใหญ่ที่นำมาเสนอ ส่วนใหญ่ก็มีตำหนิครบ 18 ประการในการพิจารณาพระรอดพิมพ์ใหญ่ของอาจารย์ อรรคเดช กฤษณะดิลกที่ได้นำเสนอในหนังสือพระรอด ปทานุกรมพระรอดฉบับพิเศษ และในหนังสือ เบาะแสไปแล้วเมื่อ เดือน กุมภาพันธ์ 2553 ส่วพระรอดพิมพ์ใหญ่อื่นๆ จะแตกต่างกันบ้างในเรื่องพิมพ์ทรง แต่พิจารณาโดย องค์รวมแล้วจะมีตำหนิคล้ายคลึงกันมาก
     นักโบราณคดี และนักศิลปศาสตร์ ได้ร่ามกันสันนิษฐานสรุปรวมความเห็น ว่าพระรอดที่มาลำพระองค์ลำนั้นคือพระรอดที่สร้างที่สร้างยุคแรก ๆ องค์ รูปธรรมโดยรวมมคล้ายศิลปะทวาราวดี และศิลปะลังกาวงค์
      อีกประการหนึ่งปรากฏเครื่องราชฯที่เกี่ยวโยงมาถึงช้างปู้ก่ำงาเขียว ช้างคูบารมี ของพระนางจามเทวี เป็นช้างที่มีฤทธิ์เดชมาก ตอนออกศึกสงครามส่งเสียงร้องช้างศัตรูได้ยินเสียงร้องก็พากันวิ่งหนึทัพแตกไม่เป็นขบวน ทาง
ภาษาเหนือเรียกว่าพญาช้าง  พอช้างตายก็ทรงโปรดให้สร้าง    กู่ช้างเป็นที่กราบไหว้ของชาวลำพูนมาจนถึงปัจจุบันนี้
           จะกล่าวถึงพระรอดที่ค้นพบโดยช่างแก้วช่างรับเหมาขุดถนน ย้อนไปเมื่อ 30 ก่อน ในขณะนั้นมีผู้คนลักขุดพระรอด จนทำให้ถนนข้างวัดทางทิศตะวันตกของวัดทรุดพังทะลายในหน้าฝน ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวก เทศบาลนครลำพูนจึงทำการสร้างถนนใหม่โดยให้ช่างแก้วรับเหมาขุดทำถนนและร่องน้ำ  ติดกับที่ หนองน้ำทางทิศตะวันตกของวัดมหาวัน ช่างแก้วขุดร่องน้ำขณะทำการขุดเพื่อจะซ่อมแซมถนนนั้นรถแบคโฮได้ไปสดุดปล้องไฉนของเจดีย์โบราณ ซึ่งมีคงามลึกพอประมาณ จึงเอาดินกลบไว้เพราะไม่อยากให้คนงานอื่นๆทราบ พอพลบค่ำก็นำบรรทุกรถยนต์กลับไปบ้าน นำไปเจาะที่บ้านปรากฏว่าพระรอดบรรจุอยู่ด้านในเต็มไปหมด มีหลายพิมพ์ทรง ก็เก็บเงียบใว้ไม่เปิดเผย โดยแบ่งให้ช่างน้อยส่วนหนึ่ง  จนกลับภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์  ช่างเสริฐทราบเรื่องจากช่างน้อยว่าช่างแก้วมีพระรอดเก็บไว้จึงไปพบ ช่างแก้วที่อุตรดิตถ์ จึงถามว่าช่างแก้วอยากได้อะไร ?ช่างแก้วบอกอยากได้มอร์เตอร์ไซด์ช๊อปเปอร์ ให้กับลูกชาย กับ เงินจำนวนหนึ่งเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล  หลังจากนั้นช่างเสริฐก็กลับมาปรึกษาอาจารย์อรรคเดช และได้นำชอ๊ปเปอร์ของอาจาย์อรรคเดช ที่ใช้ในกิจการกลุ่มเชียงใหม่กรุ๊ฟไปมอบให้ช่างแก้วพร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่ง
       เพราะที่ผ่านมามีหมอดูที่มีตาที่สาม บอกทักช่างแก้วนานแล้วว่าที่ตนไม่ค่อยสบายคือสามวันดีสี่วันไข้ หมอดูได้บอกว่าเจ้าของพระในอดีตจะตามมาเอาของคืน จงมอบของให้ผู้เป็นเจ้าของไปช่างเสริฐเล่าให้ช่างแก้วฟังว่า ตนเองกำลังช่วยอาจารย์อรรคเดช ทำหนังสือเกี่ยวกับพระรอด ท่านก็เห็นดีเห็นงามด้วยมอบให้ด้วยความเต็มใจ จริงๆท่านจะนำมามอบให้อาจารย์อรรคเดชนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสและไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เพราะตนเองอ่านหนังสือพระรอดที่อาจารย์อรรคเดชเขียนมีความชื่นชมศรัทธาใน การสร้างสรรอนุรักษ์  
          ช่างเสริฐหลังจากได้พระรอดแล้วก็นำเพราะรอดที่ได้มาทั้งหมดมาสำรวจพบว่าพระรอดพิมพ์ใหญ่หลายพิมพ์ทรงซี่งได้นำเสนอต่อไป  ลักษณะพุทธศิลป์สวยงามคมชัดลึดเนื้อจัดเกือบกลายเป็นหินได้พบพิมพ์นิยมเครื่องราชฯหลายพิมพ์ทรงซึ่งจะได้นำเสนอต่อไป
        ขนาดขององค์พระมีขนาดเท่ากับพระรอดที่ช่างเสริฐค้นพบที่หน้าวัดจามเทวี พระรอดทุกองค์สวยงามเกือบทั้งหมดแสดงว่าเป็นพระรอดที่ค้ดเลือกที่สวยบรรจุในปล้องไฉนของเจดีย์ หรือคำเมืองว่า (ใจธาตุ )เพราะคนโบราณเชื่อว่าเกิดมาชาติหน้าหน้าตาจะได้สวยงามเหมือพระที่บรรจุในพระเจดีย์ เพราะชุดนี้อาจารย์อรรคเดช ส่งไปให้เพื่อนที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาพิสูจน์ความเก่า เป็นพระรอดที่มีอายุและมีความเก่าจริงจากการวิเคราะห์เรื่อง หินแตลเซี่ยมเกาะผิวพระรอดของกรมทรัพย์ฯ ก็มีความเห็นว่า มีความสมบูรณ์ของคราบธรรมชาติ และการขยายตัวของมวลสาร  ที่ปฏิเสฎไม่ได้ ขณะนี้รอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

 
พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน 

พระรอดพิมพ์กลางวัดมหาวัน 
      
  
พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน  

พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน 

พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน  

 


พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน  

 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน 


 จุดชี้ตำหนิตำหนิพระรอดพิมพ์ใหญ่(พิมพ์เครื่องราชฯ)
  1.  ฝักดาบ
  2. เส้นรัศมี
  3. เส้นบังคับพิมพ์
  4. โพธ์รูปคมขวาน
  5. ตุ้มหูมี /ชนิดเป็นขอเบ็ดและเห็นไม่ฃัด 
  6. เนื้อเกิน 
  7. กำไรปล้องแขน 
  8. เส้นแซมใต้ฐานเส้นเล็กๆใต่อาสน
  9. เส้นใต้ฐานเป้นเส้นตรง 
  10. เนื้อเกินออกมา 
  11. โพธิ์มีลักษณะเป็นเหลี่ยมเป็นแอ่งตรงกลาง
  12. จุดคล้ายไข่ปลา 
  13. เส้นรัศมี 
  14. ใบโพธิ์มีลักษณะเป็นรูปเหลี่ยม 
  15. แก้มมีรอยครูด 
  16. คล้ายรากปมถั่ว 
  17. ตุ้มหูมีสามตุ่มบางองค์ติดสองแล้แต่กรณี 
  18. เครื่องราชฯที่มีรุปช้างอยู่ภายใน
  19. เส้นน้ำตกใต้ศอก
  20. เส้นน้ำตกเป็นรูปตัว y คว่ำหัวลง
  21. เส้นน้ำตกมีลักษณะคล้ายเท้นกเกาะกิ่งไม้
นอกจากนี้ยังมีข้อปลีกย่อยซึ่งจะได้พูดเรื่องทางกายวิภาค( Anatomy )ของพระรอดโดยละเอียดแต่ละพิมพ์อีกที
  1. ตา
  2. จมูก
  3. พระเมาลี
  4. หู
  5. ตุ้มหู
  6. มือ
  7. พระเกศ
  8. ลำพระองค์
  9. พระเพลา
  10. เส้นน้ำตก
 
 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน



ชื่อพระ        พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์เครื่องราชฯ)
ประวัติพระ   ค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อระบายน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1


ชื่อพระ              พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน
ประวัติพระ         ค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อนขณะขุดทำท่อน้ำพระบรรจุที่คอเจดีย์หัก พบพระรอดยืน/พระสิขี/ดอกธาตุ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะ               สี หัวไพรแห้ง
ความสวยงามระดับ ท ี่1



ชื่อพระ         พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์แขนมีขีด)
ประวัติพระ   ค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1 (คราบธรรมชาติล้างไม่ออก)




ชื่อพระ พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์ใหญ่ล่ำทรงลังกา)
ประวัติพระค้นพบโดยช่างน้อยซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี ดอกพิกุล 
ความสวยงามระดับ ท ี่1
ฟอร์ม ทรงหยดน้ำลงตัวทางศิลปะ
ราคา  ไม่หนีองค์แชมป์ เป็นพระโซนเนื้อเดียวกัน



ชื่อพระ              พระรอดพิมพ์เล็ก่วัดมหาวัน
ประวัติพระค้นพบโดยน้อยหมา พระภิษุที่บวชในวัดมหาวัน เมื่อปี 2491
สภาพธรรมชาติ  ยังผ่านการใช้แตยั่คงสภาพเดิมๆิคราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสีดอกพิกุล
ความสวยงามทางธรรมชาติ
ฟอร์ม     สวยงามทางศิลปะสมส่วนลงตัว



ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์เล็กวัดมหาวัน (พิมพ์เล็กทรงระฆัง)
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    ขาวดอกจำปี
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ




ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์เล็กวัดมหาวัน 
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    ขาวดอกจำปี
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ



 พระรอดพิมพ์ตื้นวัดมหาวัน 


ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์เล็กวัดมหาวัน 
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    เขียวมะขามเปียก
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ



ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์เล็กวัดมหาวัน 
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    เขียวคราบเหลิอง
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ



 
ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์ใหวัดมหาวัน ()
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    สีหัวไพรแห้ง 
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ




 พระรอดพิมพ์ใหญ( พิมพ์ก้นแมลงสาป )

 
 พระรอดพิมพ์ใหญ( พิมพ์คมชัดลึก พิมพ์ ที่4  )ภาพขยายให้ชัดขึ้น


ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์กลาง วัดมหาวัน
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                    สีเขียวผลมะกอกดสุก
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ



ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์ต้อวัดมหาวัน 
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี                เขียวคาดแดง
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ



ชื่อพระรอด               พระรอดพิมพ์ต้อวัดมหาวัน
ประวัติพระค้นพบ     โดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ        ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี             เขียวคาดเหลือง      
ความสวยงาม          ระดับ ท ี่1
ฟอร์ม                         สวยลงตัวทางศิลปะ





พระรอดพิมพ์เล็กวัดมหาวัน
ประวัติพระค้นพบโดยน้อยหมา วัดมหาวัน พบเมื่อปี 2491ขณะบูรณะวัด
สภาพธรรมชาติ ยัง่ผ่านการใช้มีสภาพสวยงาม หนึกนุ่ม
วรรณะ    สี เทามอย
ความสวยงามระดับ ท ี่1
ฟอร์มสวยงามลงตัวทางศิลปะ


]
พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน กรุเก่า (พิมพ์เครื่งราชฯ)
ประวัติพระค้นพบโดย ลุงน้อยแก้ว หลังวัดพระคง
สภาพธรรมชาติ ผ่านการใช้มีคราบธรรมชาติ ให้เห็น กรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี สองกษัตริย์ เหลืองคาดเขียว
ความสวยงามระดับ ท ี่1
ฟอร์ม สวยงามลงตัวทางศิลปะ



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์แข็งคม)          ช่างแก้ว  1      
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์เครื่งราชฯ)          ช่างแก้ว2
 ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
โซนเนื้อผงหิน
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์เครื่งราชฯ)              ช่างแก้ว2
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวเทา
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์เนื้อเกิน)             ช่างแก้ว3
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์คอเอียง)        ช่างแก้ว4
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์บอล๊คแตก)      ช่างแก้ว5
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์หูมีขีด)              ช่างแก้ว6
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 20 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์หูขีด)                ช่างแก้ว6
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวคาดเหลือง
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์กลางวัดมหาวัน
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในถการขุดทำท่อน้ำ
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี เขียวหินครก
ความสวยงามระดับ ท ี่1



 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์ร้อยล้านฯ)ชาวบ้านเรียกพิมพ์ไหล่ขีด)     ช่างแก้ว7
ประวัติพระค้นพบโดยช่างแก้ว ช่างรับเหมาขุดถนนนซ่อมแซมถนนข้างวัดมหาวัน เมื่อ 30 ปีก่อน
ในการขุดทำท่อน้ำข้างถนน
สภาพธรรมชาติ ยังไม่ผ่านการใช้มีสภาพเดิมๆ (Original ) คราบกรุดินนวล เม็ดผดแคลเซี่ยม
วรรณะสี พิกุลแห้ง  ความสวยงามระดับ ท ี่1




พระรอดพิมพ์ใหญ่ ทรงพิมพ์ลำตะเข็บข้าง
เกิดจากรอยครูดของการถอดพิมพ์



พระรอดวัดมหาวันพิมพ์ใหญ



พระรอดวัดมหาวันพิมพ์ใหญ่
พิมพ์ทรง คิ้วต่อทรงเขมร

 พระรอดวัดมหาวันพิมพ์ใหญ่


 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน (พิมพ์หน้าพระสิงห์)


 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน


 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน
















 
 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน


 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน


 พระรอดพิมพ์ใหญ่วัดมหาวัน





 















 พระรอดพิมพ์ติ้นวัดมหาวัน





พระรอดวัดมหาวันพิมพ์ใหญ่

ตำหนิพระรอด


จาการค้นพบพระรอดพิมพ์ จำนวน40 จากการให้การของอดีต เจ้าอาวาสวัดมหาวัน ( พระณาณชุมพลว่า พระรอดนั้น มีมากกว่า 40 พิมพ์ ปรากฏว่าพระรอดพิมพ์ใหญ่ทุพิมพ์มีใบหน้าและตำหนิใกล้เคียงทั้งหมดยกเว้นพระเกจิรุ่นหลัง อันได้แก่  พระรอดครูบากองแก้ว/พระรอดเณรบี้ยว/พระรอดครูบาทึม 






พุทธศิลป์พระรอดพิมพ์เครื่องราชพิมพ์ที่ 1 (ไม่มีกำไลปล้องแขน)

  1. ก้านโพธิ์คล้ายรูปฝักดาบ
  2. เส้นบังคับพิมพ์
  3. โพธิ์เป็นรูปพีรามิด
  4. เนื้อเกินบนโพธิ์สมมุติ
  5. จุดไข่ปลาใต้โพธิ์ขอเบ็ด
  6. โพธิ์มีลักษณะเป็นเหลี่ยมคม
  7. รอยแตกคล้านรากปมถั่วลิสง
  8. เครื่องราชฯเป็นรูปช้างจะเห็นขาช้าโผล่ออกมา
  9. ใต้แขนจะมีเส้น
  10. มีลักษณะคล้ายปลายพู่กัน
  11. เส้นนำตก 3 เส้นคล้ายเท้านกเกาะกิ่งไม้
  12. นอกนั้นยัมีข้อปลีกย่อยอย่อื่นๆอีกมาก  เรื่องผิวพระ/ธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่พระรอดพึงมี
(ที่มาของรูปภาพ พิพิธภัณฑ์พระ อแม่จัน จังหวัดเชียงราย ชื่อองค์งาม)


พุทธศิลป์พระรอดพิมพืเครื่องราชฯพิมพ์ที่ 2         (มีกำไลปล้องแขน)

ขยายรูปให้ใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้ศึกษาเนื้อพระที่หินแคลเซี่ยมเกาะเนื้อพระเป็นเช่นใด?
  1. โพธิ์มีลักษณะงุ้มมาด้านหน้า
  2. เส้นรัศมี
  3. เส้นบังคับพิมพ์
  4. โพธิ์มีลักษณะเป็นรูปคมขวาน
  5. โพธฺมีเนื้อเกินซ้อนขึ้นมา (เซียนนิยมแต่เป็นรูปสีเหลี่ยม) 
  6. ปล้องกำไลที่แขนขวา
  7. ห้วแม่มือเป็นรอยสับ
  8. มีเส้นเล็กๆวิ่งใต้ฐาน
  9. ก้านโพธิ์มีลักษณะคล้ายฝักดาบ


  1. 11 จุดไข่ปลาใต้โพธิ์สมมุติ
  2. 12 โพธิ์มีลักษณะเป็นเหลี่ยมคม
  3. 13 รอยครูดในแก้มด้านซ้ายองค์พระ
  4. 14 มีลักษณะคล้ายรากปมถ้วลิสง
  5. 15 เรื่องราชฯวงกลมเห็นขาช้างโผล่ออกมา
  6. 16 รอยขีดที่แขด้านซ้ายองค์พระ
  7. 17 เห็นห้วแม่มือเห็นรางๆ
  8. 18 เส้นผ้าทิพย์
  9. 19 เส้นน้ำตกคล้ายเท้านกเกาะกิ่งไม้
นอกนี้ยังมีปลีกย่อยเช่นเส้น้ำตกมี 3 จุดใต้ศอกซ้าย/ใต้เข่าซ้าย/ใต้ฐานบนเป็นแนวเดียวกัน ฐานอาสนมี 4 ชั้น เส้นผ้าปูรองนั่ง ( focus )

  

พระรอดพิมพ์กลางวัดมหาวัน
  1. ประภามลฑลมีลักษณะคล้ายปลายหอก
  2. โพธิ์รูปคมขวาน
  3. เนื้อเกินบนโพธิ์สมมุติ
  4. เส้นแตกซอกแขนสองเส็นบางพิมพ์สามเส้น  
  5. มีฐาน3 ชั้นฐานที่3 หนาใหญ่
  6. เนื้อเกินที่.ใต้ฐานที่ 3 มีลักษณะคล้ายก้นแมลงสาป
  7. โพธิ์ติ่ง 
  8. มีลักษณะนูนเด่นคล้ายไข่ปลา
  9. หน้าอกนูน
  10. ปีกพระยื่นออกมา
  11. เส้นผ้าทิพย์  (  Focus  )

  
 
พระรอดพิมพ์ต้อวัดมหาวัน
  1. ก้านโพธิ์ เป็นเส้นตรงบางพิมพ์เชื่อมติดเกศ
  2. เกศสะบัดคล้ายเปลวเพลิง
  3. โพธิ์รูปคมขวาน
  4. ปีกพระด้านข้าง
  5. หัวแม่มือมีรอยถูกสับ
  6. โพธิ์มีรูปคล้ายสี่เหลี่ยม
  7. มีลักษณะคล้ายตัวเอ็ม
  8. มีกระพุ้งแก้ม
  9. มีเนื้อเกินยื่นมาด้านหน้า
    นอกนั้นยังมีปลีกย่อยเส้นน้ำตก ทีใต้ศอกซ้ายและใต้เข่าซ้าย 
(พระรอดพิมพ์ต้อมีหลายบ๊อลค นี่เพียงตัวอย่างหนึ่ง)
(ที่มาของรูปภาพ พิพิธภัณฑ์ อแม่จัน จังหวัดเชียงราย)


บทความโดย : webmaster

อ่าน :: 80579